Tag Archives: harp and bowl

14-12-2014 อธิษฐาน นมัสการ วันสะบาโต

 

เข้ามาใกล้องค์บริสุทธิ์ และเรียนรู้จักพระคริสต์ผู้ทรงประทานความโปรดปราน….

 

 

 

07-12-2014 อธิษฐาน นมัสการ วันสะบาโต

 

เร่งรีบ เร่งเท้า… เพื่อนำตนเองมาอยู่ในเวลาของพระเจ้าเถิด

 

 

 

กจ.12:1-19 {พลังการอธิษฐานเพื่อผู้อื่น}

 

12:1 แล้วคราวนั้นกษัตริย์เฮโรดได้เหยียดพระหัตถ์ออกทำร้ายบางคนในคริสตจักร
12:2 ท่านได้ฆ่ายากอบพี่ชายของยอห์นด้วยดาบ
12:3 เมื่อท่านเห็นว่าการนั้นเป็นที่ชอบใจพวกยิว ท่านก็จับเปโตรด้วย (นี่เป็นระหว่างเทศกาลขนมปังไร้เชื้อ)
12:4 และเมื่อท่านจับเปโตรแล้ว ท่านจึงให้จำคุกเขาไว้ และมอบเขาไว้กับทหารสี่หมู่ ๆ ละสี่คนให้คุมเขาไว้ ตั้งใจว่าเมื่อสิ้นเทศกาลอีสเตอร์แล้วจะพาเขาออกมาให้แก่คนทั้งหลาย
12:5 เพราะฉะนั้นเปโตรจึงถูกจำไว้ในคุก แต่ว่าคริสตจักรได้อธิษฐานต่อพระเจ้าเพื่อเปโตรโดยไม่หยุด
12:6 ในคืนวันนั้นเอง ครั้นเฮโรดจะพาเปโตรออกมา เปโตรนอนหลับอยู่ระหว่างทหารสองคน มีโซ่สองเส้นล่ามไว้ และคนยามเฝ้าอยู่หน้าประตูคุก
Continue reading กจ.12:1-19 {พลังการอธิษฐานเพื่อผู้อื่น}

กจ.11:1-30{การเป็นพยานต่อผู้เชื่อด้วยกัน}

 

11:1 ฝ่ายพวกอัครสาวกกับพี่น้องทั้งหลายที่อยู่ในแคว้นยูเดียได้ยินว่า คนต่างชาติได้รับพระวจนะของพระเจ้าเหมือนกัน
11:2 เมื่อเปโตรขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็มแล้ว พวกที่เข้าสุหนัตจึงต่อว่าท่าน
11:3 ว่า “ท่านไปหาคนที่ไม่ได้เข้าสุหนัต และรับประทานอาหารกับเขา”
11:4 แต่เปโตรได้อธิบายให้เขาฟังตั้งแต่ต้นเป็นลำดับมาว่า
11:5 “เมื่อข้าพเจ้าอยู่ในเมืองยัฟฟาและกำลังอธิษฐานก็เข้าสู่ภวังค์แล้วนิมิตเห็นภาชนะอย่างหนึ่งเหมือนผ้าผืนใหญ่หย่อนลงมาทั้งสี่มุมจากฟ้าสวรรค์ และมายังข้าพเจ้า
11:6 ครั้นข้าพเจ้าเขม้นดูผ้านั้นข้าพเจ้าได้พินิจพิจารณาก็ได้เห็นสัตว์สี่เท้าของแผ่นดิน กับสัตว์ป่าสัตว์เลื้อยคลาน และนกที่อยู่ในท้องฟ้า
11:7 แล้วข้าพเจ้าได้ยินพระสุรเสียงตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘เปโตรเอ๋ย จงลุกขึ้น ฆ่ากินเถิด’
11:8 แต่ข้าพเจ้าทูลว่า ‘หามิได้ พระองค์เจ้าข้า เพราะว่าสิ่งของซึ่งต้องห้ามหรือซึ่งเป็นมลทินยังไม่ได้เข้าปากข้าพระองค์เลย’
11:9 แต่มีพระสุรเสียงตรัสจากฟ้าครั้งที่สองว่า ‘ซึ่งพระเจ้าได้ทรงชำระแล้ว เจ้าอย่าว่าเป็นของต้องห้าม’
11:10 เป็นอย่างนั้นถึงสามครั้ง แล้วสิ่งนั้นทั้งสิ้นก็ถูกรับขึ้นไปบนฟ้าอีก
11:11 ดูเถิด ในทันใดนั้นมีชายสามคนมายืนอยู่ตรงหน้าบ้านที่ข้าพเจ้าอยู่ รับใช้มาจากเมืองซีซารียามาหาข้าพเจ้า
11:12 พระวิญญาณจึงสั่งให้ข้าพเจ้าไปกับเขาโดยไม่ลังเลใจเลยและพวกพี่น้องทั้งหกคนนี้ได้ไปกับข้าพเจ้าด้วยเราทั้งหลายจึงเข้าไปในบ้านของผู้นั้น
11:13 ผู้นั้นจึงกล่าวแก่พวกเราว่าตัวท่านได้เห็นทูตสวรรค์องค์หนึ่งยืนอยู่ในบ้านของท่าน และบอกท่านว่า ‘จงใช้คนไปยังเมืองยัฟฟา เชิญซีโมนที่เรียกว่าเปโตรมา
11:14 เปโตรนั้นจะกล่าวให้ท่านฟังเป็นถ้อยคำซึ่งจะให้ท่านกับทั้งครอบครัวของท่านรอด’
11:15 เมื่อข้าพเจ้าตั้งต้นกล่าวข้อความนั้น พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็เสด็จมาสถิตกับเขาทั้งหลาย เหมือนได้เสด็จลงมาบนพวกเราในตอนต้นนั้น
11:16 แล้วข้าพเจ้าได้ระลึกถึงคำตรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้า ซึ่งพระองค์ตรัสไว้ว่า ‘ยอห์นให้รับบัพติศมาด้วยน้ำก็จริง แต่ท่านทั้งหลายจะรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์’
11:17 เหตุฉะนั้นถ้าพระเจ้าได้ทรงโปรดประทานของประทานแก่เขาเหมือนแก่เราทั้งหลายผู้ที่ได้เชื่อในพระเยซูคริสต์เจ้าข้าพเจ้าเป็นผู้ใดเล่าที่จะขัดขืนพระเจ้าได้”
11:18 ครั้นคนทั้งหลายได้ยินคำเหล่านั้นก็นิ่งอยู่ แล้วได้สรรเสริญพระเจ้าว่า “พระเจ้าได้ทรงโปรดแก่คนต่างชาติให้กลับใจใหม่จนได้ชีวิตรอดด้วย”
11:19 ฝ่ายคนทั้งหลายที่กระจัดกระจายไปเพราะการเคี่ยวเข็ญเนื่องจากสเทเฟนก็พากันไปยังเมืองฟีนิเซีย เกาะไซปรัส และเมืองอันทิโอกและไม่ได้กล่าวพระวจนะแก่ผู้ใดนอกจากแก่ยิวพวกเดียว
11:20 และมีบางคนในพวกเขาเป็นชาวเกาะไซปรัสกับชาวไซรีน เมื่อมายังเมืองอันทิโอกก็ได้กล่าวประกาศข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซูเจ้าแก่พวกกรีกด้วย
11:21 และพระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่กับเขา คนเป็นอันมากได้เชื่อและกลับมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้า
11:22 ข่าวนี้ก็เล่าลือไปยังคริสตจักรในกรุงเยรูซาเล็ม เขาจึงใช้บารนาบัสให้ไปยังเมืองอันทิโอก
11:23 เมื่อบารนาบัสมาถึงแล้ว และได้เห็นพระคุณของพระเจ้าก็ปีติยินดีจึงได้เตือนคนเหล่านั้นให้ตั้งมั่นคงติดสนิทอยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้า
11:24 บารนาบัสเป็นคนดี ประกอบด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และความเชื่อ จำนวนคนเป็นอันมากก็เพิ่มเข้ากับองค์พระผู้เป็นเจ้า
11:25 บารนาบัสได้ไปที่เมืองทาร์ซัสเพื่อตามหาเซาโล
11:26 เมื่อพบแล้วจึงพาเขามายังเมืองอันทิโอกต่อมาท่านทั้งสองได้ประชุมกันกับคริสตจักรตลอดปีหนึ่งได้สั่งสอนคนเป็นอันมากและในเมืองอันทิโอกนั่นเองพวกสาวกได้ชื่อว่าคริสเตียนเป็นครั้งแรก
11:27 คราวนี้มีพวกศาสดาพยากรณ์ลงมาจากกรุงเยรูซาเล็มจะไปยังเมืองอันทิโอก
11:28 ฝ่ายผู้หนึ่งในจำนวนนั้นชื่ออากาบัสได้ลุกขึ้นกล่าวโดยพระวิญญาณว่าจะบังเกิดการกันดารอาหารมากยิ่งทั่วแผ่นดินโลก การกันดารอาหารนั้นได้บังเกิดขึ้นในรัชสมัยคลาวดิอัส ซีซาร์
11:29 พวกสาวกทุกคนจึงตกลงใจกันว่า จะถวายตามกำลังฝากไปช่วยบรรเทาทุกข์พวกพี่น้องที่อยู่ในแคว้นยูเดีย
11:30 เขาจึงได้ทำดังนั้น และฝากไปกับบารนาบัสและเซาโลเพื่อนำไปให้พวกผู้ปกครอง

 

กจ.11:1-30{การเป็นพยานต่อผู้เชื่อด้วยกัน}

 

(ข้อ 1-4) เปโตรเป็นพยานถึงสิ่งที่พระเจ้าทรงสำแดงและใช้เขา เพื่อคนต่างชาติ  … เนื่องจากในยุคนั้นการประกาศกับคนต่างชาติเป็นเรื่องใหม่ที่ยังไม่เคยเกิดขึ้น อีกทั้งการแยกออกของชนชาติของพระเจ้า (ยิว) เป็นเรื่องที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาอย่างเด่นชัด จึงเป็นปกติที่ทำให้เกิดความไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่การเปิดใจออกของผู้เชื่อ ทำให้พวกเขาได้เข้าใจและเห็นสิ่งที่พระเจ้าทรงทำ ทั้งนี้เมื่อเขาเข้าใจแล้วจึงต่างสรรเสริญพระนามพระเจ้า (18)

 

(ข้อ 16-18) การเป็นพยานมี 2 แบบ คือ
1.    เป็นพยานต่อผู้ไม่เชื่อ >> เพื่อประกาศพระนามของพระเจ้าไปยังผู้ที่ไม่เชื่อ เป็นการนำความรอดไปถึงผู้ที่ยังไม่เชื่อพระเจ้า

2.    เป็นพยานต่อผู้เชื่อด้วยกันเอง >> เพื่อหนุนจิตชูใจซึ่งกันและกัน อีกทั้งเป็นการเพิ่มความรู้ความเข้าใจแก่ผู้เชื่อด้วยกันเอง ในการก้าวไปกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ …  เนื่องจากความเติบโตของแต่ละคนไม่เท่ากัน ประสบการณ์ของแต่ละคน แต่ละเวลาต่างกัน การเป็นพยานถึงสิ่งที่พระเจ้าทำ ส่งผลให้เกิดการหนุนจิตชูใจซึ่งกันและกัน อีกทั้งยังสามารถเสริมสร้างให้ความเชื่อของผู้อื่นได้เติบโตเข้มแข็งไปด้วย

*** ซึ่งการเป็นพยานประเภทนี้ เป็นการตรวจสอบกันและกันได้ด้วย ดังเช่นเปโตรเป็นพยานถึงสิ่งที่พระเจ้าทำและสำแดงแก่เขา ทำให้ผู้เชื่อเกิดความเข้าใจ (เคียร์ความไม่เข้าใจ , เปิดโลกและมุมมองใหม่ๆ ในสิ่งที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงทำ… ทุกคนต่างปรารถนาจะเดินในมรรคาของพระเจ้าทั้งสิ้น เพียงแต่มีความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์บางด้านที่ไม่เท่ากันเท่านั้นเอง) … นอกจากพวกเขาจะเติบโตในด้านความรู้ความเข้าใจ ในสิ่งที่พระวิญญาณบริสุทธิ์กำลังเคลื่อนแล้ว การที่เปโตรอธิบายและเป็นพยานถึงสิ่งเหล่านี้ เพราะเปโตรถ่อมลงต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าและต่อหน้ามนุษย์ด้วยกันเอง ยินดีแบ่งปันสิ่งที่พระเจ้าทำออกไปด้วยน้ำใสใจจริง
*** คริสเตียนจำเป็นต้องเป็นพยานทั้ง 2 แบบ

 

(ข้อ 19-30)  เป็นภาพที่แสดงถึง การบริหารจัดการของคริสตจักรในสมัยแรก มีการประสานงานช่วยเหลือกัน โดยไม่แบ่งแยกกลุ่ม หรือ เชื้อสาย แต่เน้นให้เกิดการเสริมสร้างกันและกันในคริสตจักร โดยการจัดสรรผู้ที่มีความเติบโตและเข้มแข็งกว่าในความเชื่อเวียนกันไปดูแล เสริมสร้าง ให้กับคริสตจักรและผู้เชื่อใหม่ๆ ตามของประทาน ทำให้การเติบโตของผู้เชื่อเป็นไปได้อย่างสอดคล้องกับการหลั่งไหลเข้ามาของผู้เชื่อใหม่

 

ananias-sapphira-3

161114

 

 

คำอธิษฐาน : ขอทรงเคียงข้าง

 

ข้าแต่พระเจ้า…
ไม่ว่าจะที่ลึกหรือที่สูง
ไม่ว่าจะทางกว้างหรือทางแคบ
ไม่ว่าจะที่ๆ คุ้นเคยหรือไม่รู้จัก
ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบ
.
.
.
ขอเพียงทรงอยู่ด้วยและเคียงข้าง… ***ข้าพระองค์และครัวเรือน พร้อมเสมอในการก้าวตาม***

ข้าแต่พระเจ้า…
ด้วยว่าทรงนำแล้ว…จะทรงรับรอง
ด้วยว่าทรงสัญญาแล้ว…ทุกสิ่งจะเกิดขึ้น
ด้วยว่าทรงอยู่ด้วยแล้ว…ชัยชนะจะเป็นของข้าพระองค์
ด้วยว่าทรงตรัสแล้ว…ไม่ทรงบิดพลิ้ว
ด้วยว่าทรงปลดปล่อยแล้ว…เสรีภาพ สิทธิอำนาจ ชัยชนะเป็นของข้าพระองค์

พระเจ้าผู้ทรงใหญ่ยิ่งสูงสุด…
ขอทรงเคียงใกล้ก็เป็นพอ…
ขอทรงประทับอยู่… ทุกสิ่งเป็นไปได้
ขอทรงปกคลุม… ความปลอดภัยย่อมเกิดขึ้น
ขอทรงอวยพร… แม้ศัตรูก็ไม่อาจพรากไปได้
ขอทรงนำ… หนทางข้างหน้าย่อมชัดเจน

พระเจ้าผู้ทรงเรียกและช้อนรับ
ขอทรงให้ตาได้เห็น… สิ่งทรงทำ
ขอให้หูได้ยิน… เสียงทรงตรัส
ขอให้ใจสัมผัส… รักอันมั่นคง แสนสงบ
ขอให้มือได้ร่วม… ในแผนการณ์อันประเสริฐ
ขอให้เท้าได้เดิน… ในมรรคาของพระองค์
ขอให้ชีวิตได้อยู่… ในเวลาและน้ำพระทัยอันสมบูรณ์ของพระคริสต์
ขอให้จิตวิญญาณนี้… เป็นของพระองค์เพียงผู้เดียว

อธิษฐาน มอบถวาย และ ทูลขอในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน”

10311213_1558125104405970_6030281226780069400_n

171114

09-11-2014 อธิษฐาน นมัสการ วันสะบาโต

 

ดั่งหญิงมีปัญญาที่เตรียมตะเกียงของตนเองอย่างพรักพร้อม เพราะวันนั้นโมงนั้นเราไม่รู้ แต่ผู้ที่พร้อมย่อมไม่พลาด….