เข้ามาใกล้องค์บริสุทธิ์ และเรียนรู้จักพระคริสต์ผู้ทรงประทานความโปรดปราน….
12:1 แล้วคราวนั้นกษัตริย์เฮโรดได้เหยียดพระหัตถ์ออกทำร้ายบางคนในคริสตจักร
12:2 ท่านได้ฆ่ายากอบพี่ชายของยอห์นด้วยดาบ
12:3 เมื่อท่านเห็นว่าการนั้นเป็นที่ชอบใจพวกยิว ท่านก็จับเปโตรด้วย (นี่เป็นระหว่างเทศกาลขนมปังไร้เชื้อ)
12:4 และเมื่อท่านจับเปโตรแล้ว ท่านจึงให้จำคุกเขาไว้ และมอบเขาไว้กับทหารสี่หมู่ ๆ ละสี่คนให้คุมเขาไว้ ตั้งใจว่าเมื่อสิ้นเทศกาลอีสเตอร์แล้วจะพาเขาออกมาให้แก่คนทั้งหลาย
12:5 เพราะฉะนั้นเปโตรจึงถูกจำไว้ในคุก แต่ว่าคริสตจักรได้อธิษฐานต่อพระเจ้าเพื่อเปโตรโดยไม่หยุด
12:6 ในคืนวันนั้นเอง ครั้นเฮโรดจะพาเปโตรออกมา เปโตรนอนหลับอยู่ระหว่างทหารสองคน มีโซ่สองเส้นล่ามไว้ และคนยามเฝ้าอยู่หน้าประตูคุก
Continue reading กจ.12:1-19 {พลังการอธิษฐานเพื่อผู้อื่น}
11:1 ฝ่ายพวกอัครสาวกกับพี่น้องทั้งหลายที่อยู่ในแคว้นยูเดียได้ยินว่า คนต่างชาติได้รับพระวจนะของพระเจ้าเหมือนกัน
11:2 เมื่อเปโตรขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็มแล้ว พวกที่เข้าสุหนัตจึงต่อว่าท่าน
11:3 ว่า “ท่านไปหาคนที่ไม่ได้เข้าสุหนัต และรับประทานอาหารกับเขา”
11:4 แต่เปโตรได้อธิบายให้เขาฟังตั้งแต่ต้นเป็นลำดับมาว่า
11:5 “เมื่อข้าพเจ้าอยู่ในเมืองยัฟฟาและกำลังอธิษฐานก็เข้าสู่ภวังค์แล้วนิมิตเห็นภาชนะอย่างหนึ่งเหมือนผ้าผืนใหญ่หย่อนลงมาทั้งสี่มุมจากฟ้าสวรรค์ และมายังข้าพเจ้า
11:6 ครั้นข้าพเจ้าเขม้นดูผ้านั้นข้าพเจ้าได้พินิจพิจารณาก็ได้เห็นสัตว์สี่เท้าของแผ่นดิน กับสัตว์ป่าสัตว์เลื้อยคลาน และนกที่อยู่ในท้องฟ้า
11:7 แล้วข้าพเจ้าได้ยินพระสุรเสียงตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘เปโตรเอ๋ย จงลุกขึ้น ฆ่ากินเถิด’
11:8 แต่ข้าพเจ้าทูลว่า ‘หามิได้ พระองค์เจ้าข้า เพราะว่าสิ่งของซึ่งต้องห้ามหรือซึ่งเป็นมลทินยังไม่ได้เข้าปากข้าพระองค์เลย’
11:9 แต่มีพระสุรเสียงตรัสจากฟ้าครั้งที่สองว่า ‘ซึ่งพระเจ้าได้ทรงชำระแล้ว เจ้าอย่าว่าเป็นของต้องห้าม’
11:10 เป็นอย่างนั้นถึงสามครั้ง แล้วสิ่งนั้นทั้งสิ้นก็ถูกรับขึ้นไปบนฟ้าอีก
11:11 ดูเถิด ในทันใดนั้นมีชายสามคนมายืนอยู่ตรงหน้าบ้านที่ข้าพเจ้าอยู่ รับใช้มาจากเมืองซีซารียามาหาข้าพเจ้า
11:12 พระวิญญาณจึงสั่งให้ข้าพเจ้าไปกับเขาโดยไม่ลังเลใจเลยและพวกพี่น้องทั้งหกคนนี้ได้ไปกับข้าพเจ้าด้วยเราทั้งหลายจึงเข้าไปในบ้านของผู้นั้น
11:13 ผู้นั้นจึงกล่าวแก่พวกเราว่าตัวท่านได้เห็นทูตสวรรค์องค์หนึ่งยืนอยู่ในบ้านของท่าน และบอกท่านว่า ‘จงใช้คนไปยังเมืองยัฟฟา เชิญซีโมนที่เรียกว่าเปโตรมา
11:14 เปโตรนั้นจะกล่าวให้ท่านฟังเป็นถ้อยคำซึ่งจะให้ท่านกับทั้งครอบครัวของท่านรอด’
11:15 เมื่อข้าพเจ้าตั้งต้นกล่าวข้อความนั้น พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็เสด็จมาสถิตกับเขาทั้งหลาย เหมือนได้เสด็จลงมาบนพวกเราในตอนต้นนั้น
11:16 แล้วข้าพเจ้าได้ระลึกถึงคำตรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้า ซึ่งพระองค์ตรัสไว้ว่า ‘ยอห์นให้รับบัพติศมาด้วยน้ำก็จริง แต่ท่านทั้งหลายจะรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์’
11:17 เหตุฉะนั้นถ้าพระเจ้าได้ทรงโปรดประทานของประทานแก่เขาเหมือนแก่เราทั้งหลายผู้ที่ได้เชื่อในพระเยซูคริสต์เจ้าข้าพเจ้าเป็นผู้ใดเล่าที่จะขัดขืนพระเจ้าได้”
11:18 ครั้นคนทั้งหลายได้ยินคำเหล่านั้นก็นิ่งอยู่ แล้วได้สรรเสริญพระเจ้าว่า “พระเจ้าได้ทรงโปรดแก่คนต่างชาติให้กลับใจใหม่จนได้ชีวิตรอดด้วย”
11:19 ฝ่ายคนทั้งหลายที่กระจัดกระจายไปเพราะการเคี่ยวเข็ญเนื่องจากสเทเฟนก็พากันไปยังเมืองฟีนิเซีย เกาะไซปรัส และเมืองอันทิโอกและไม่ได้กล่าวพระวจนะแก่ผู้ใดนอกจากแก่ยิวพวกเดียว
11:20 และมีบางคนในพวกเขาเป็นชาวเกาะไซปรัสกับชาวไซรีน เมื่อมายังเมืองอันทิโอกก็ได้กล่าวประกาศข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซูเจ้าแก่พวกกรีกด้วย
11:21 และพระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่กับเขา คนเป็นอันมากได้เชื่อและกลับมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้า
11:22 ข่าวนี้ก็เล่าลือไปยังคริสตจักรในกรุงเยรูซาเล็ม เขาจึงใช้บารนาบัสให้ไปยังเมืองอันทิโอก
11:23 เมื่อบารนาบัสมาถึงแล้ว และได้เห็นพระคุณของพระเจ้าก็ปีติยินดีจึงได้เตือนคนเหล่านั้นให้ตั้งมั่นคงติดสนิทอยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้า
11:24 บารนาบัสเป็นคนดี ประกอบด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และความเชื่อ จำนวนคนเป็นอันมากก็เพิ่มเข้ากับองค์พระผู้เป็นเจ้า
11:25 บารนาบัสได้ไปที่เมืองทาร์ซัสเพื่อตามหาเซาโล
11:26 เมื่อพบแล้วจึงพาเขามายังเมืองอันทิโอกต่อมาท่านทั้งสองได้ประชุมกันกับคริสตจักรตลอดปีหนึ่งได้สั่งสอนคนเป็นอันมากและในเมืองอันทิโอกนั่นเองพวกสาวกได้ชื่อว่าคริสเตียนเป็นครั้งแรก
11:27 คราวนี้มีพวกศาสดาพยากรณ์ลงมาจากกรุงเยรูซาเล็มจะไปยังเมืองอันทิโอก
11:28 ฝ่ายผู้หนึ่งในจำนวนนั้นชื่ออากาบัสได้ลุกขึ้นกล่าวโดยพระวิญญาณว่าจะบังเกิดการกันดารอาหารมากยิ่งทั่วแผ่นดินโลก การกันดารอาหารนั้นได้บังเกิดขึ้นในรัชสมัยคลาวดิอัส ซีซาร์
11:29 พวกสาวกทุกคนจึงตกลงใจกันว่า จะถวายตามกำลังฝากไปช่วยบรรเทาทุกข์พวกพี่น้องที่อยู่ในแคว้นยูเดีย
11:30 เขาจึงได้ทำดังนั้น และฝากไปกับบารนาบัสและเซาโลเพื่อนำไปให้พวกผู้ปกครอง
(ข้อ 1-4) เปโตรเป็นพยานถึงสิ่งที่พระเจ้าทรงสำแดงและใช้เขา เพื่อคนต่างชาติ … เนื่องจากในยุคนั้นการประกาศกับคนต่างชาติเป็นเรื่องใหม่ที่ยังไม่เคยเกิดขึ้น อีกทั้งการแยกออกของชนชาติของพระเจ้า (ยิว) เป็นเรื่องที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาอย่างเด่นชัด จึงเป็นปกติที่ทำให้เกิดความไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่การเปิดใจออกของผู้เชื่อ ทำให้พวกเขาได้เข้าใจและเห็นสิ่งที่พระเจ้าทรงทำ ทั้งนี้เมื่อเขาเข้าใจแล้วจึงต่างสรรเสริญพระนามพระเจ้า (18)
(ข้อ 16-18) การเป็นพยานมี 2 แบบ คือ
1. เป็นพยานต่อผู้ไม่เชื่อ >> เพื่อประกาศพระนามของพระเจ้าไปยังผู้ที่ไม่เชื่อ เป็นการนำความรอดไปถึงผู้ที่ยังไม่เชื่อพระเจ้า
2. เป็นพยานต่อผู้เชื่อด้วยกันเอง >> เพื่อหนุนจิตชูใจซึ่งกันและกัน อีกทั้งเป็นการเพิ่มความรู้ความเข้าใจแก่ผู้เชื่อด้วยกันเอง ในการก้าวไปกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ … เนื่องจากความเติบโตของแต่ละคนไม่เท่ากัน ประสบการณ์ของแต่ละคน แต่ละเวลาต่างกัน การเป็นพยานถึงสิ่งที่พระเจ้าทำ ส่งผลให้เกิดการหนุนจิตชูใจซึ่งกันและกัน อีกทั้งยังสามารถเสริมสร้างให้ความเชื่อของผู้อื่นได้เติบโตเข้มแข็งไปด้วย
*** ซึ่งการเป็นพยานประเภทนี้ เป็นการตรวจสอบกันและกันได้ด้วย ดังเช่นเปโตรเป็นพยานถึงสิ่งที่พระเจ้าทำและสำแดงแก่เขา ทำให้ผู้เชื่อเกิดความเข้าใจ (เคียร์ความไม่เข้าใจ , เปิดโลกและมุมมองใหม่ๆ ในสิ่งที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงทำ… ทุกคนต่างปรารถนาจะเดินในมรรคาของพระเจ้าทั้งสิ้น เพียงแต่มีความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์บางด้านที่ไม่เท่ากันเท่านั้นเอง) … นอกจากพวกเขาจะเติบโตในด้านความรู้ความเข้าใจ ในสิ่งที่พระวิญญาณบริสุทธิ์กำลังเคลื่อนแล้ว การที่เปโตรอธิบายและเป็นพยานถึงสิ่งเหล่านี้ เพราะเปโตรถ่อมลงต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าและต่อหน้ามนุษย์ด้วยกันเอง ยินดีแบ่งปันสิ่งที่พระเจ้าทำออกไปด้วยน้ำใสใจจริง
*** คริสเตียนจำเป็นต้องเป็นพยานทั้ง 2 แบบ
(ข้อ 19-30) เป็นภาพที่แสดงถึง การบริหารจัดการของคริสตจักรในสมัยแรก มีการประสานงานช่วยเหลือกัน โดยไม่แบ่งแยกกลุ่ม หรือ เชื้อสาย แต่เน้นให้เกิดการเสริมสร้างกันและกันในคริสตจักร โดยการจัดสรรผู้ที่มีความเติบโตและเข้มแข็งกว่าในความเชื่อเวียนกันไปดูแล เสริมสร้าง ให้กับคริสตจักรและผู้เชื่อใหม่ๆ ตามของประทาน ทำให้การเติบโตของผู้เชื่อเป็นไปได้อย่างสอดคล้องกับการหลั่งไหลเข้ามาของผู้เชื่อใหม่
161114
“♥ ข้าแต่พระเจ้า…
♥ ไม่ว่าจะที่ลึกหรือที่สูง
♥ ไม่ว่าจะทางกว้างหรือทางแคบ
♥ ไม่ว่าจะที่ๆ คุ้นเคยหรือไม่รู้จัก
♥ ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบ
.
.
.
♣ ขอเพียงทรงอยู่ด้วยและเคียงข้าง… ***ข้าพระองค์และครัวเรือน พร้อมเสมอในการก้าวตาม***
♥ ข้าแต่พระเจ้า…
♥ ด้วยว่าทรงนำแล้ว…จะทรงรับรอง
♥ ด้วยว่าทรงสัญญาแล้ว…ทุกสิ่งจะเกิดขึ้น
♥ ด้วยว่าทรงอยู่ด้วยแล้ว…ชัยชนะจะเป็นของข้าพระองค์
♥ ด้วยว่าทรงตรัสแล้ว…ไม่ทรงบิดพลิ้ว
♥ ด้วยว่าทรงปลดปล่อยแล้ว…เสรีภาพ สิทธิอำนาจ ชัยชนะเป็นของข้าพระองค์
♥ พระเจ้าผู้ทรงใหญ่ยิ่งสูงสุด…
♥ ขอทรงเคียงใกล้ก็เป็นพอ…
♥ ขอทรงประทับอยู่… ทุกสิ่งเป็นไปได้
♥ ขอทรงปกคลุม… ความปลอดภัยย่อมเกิดขึ้น
♥ ขอทรงอวยพร… แม้ศัตรูก็ไม่อาจพรากไปได้
♥ ขอทรงนำ… หนทางข้างหน้าย่อมชัดเจน
♥ พระเจ้าผู้ทรงเรียกและช้อนรับ
♥ ขอทรงให้ตาได้เห็น… สิ่งทรงทำ
♥ ขอให้หูได้ยิน… เสียงทรงตรัส
♥ ขอให้ใจสัมผัส… รักอันมั่นคง แสนสงบ
♥ ขอให้มือได้ร่วม… ในแผนการณ์อันประเสริฐ
♥ ขอให้เท้าได้เดิน… ในมรรคาของพระองค์
♥ ขอให้ชีวิตได้อยู่… ในเวลาและน้ำพระทัยอันสมบูรณ์ของพระคริสต์
♥ ขอให้จิตวิญญาณนี้… เป็นของพระองค์เพียงผู้เดียว
อธิษฐาน มอบถวาย และ ทูลขอในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน”
171114