Tag Archives: harp and bowl

คำอธิษฐาน : เตรียมชีวิตให้พรักพร้อม

“ข้าแต่พระเจ้า…ผู้ทรงตั้งต้นการดี ไว้แต่แรกเริ่ม

ขอโปรดสำแดงทางทั้งสิ้นอันชอบธรรมแก่ข้าพระองค์

ขอโปรดทรงสอนให้เท้าก้าวในมรรคาของพระองค์

โอ้…จิตใจเอ๋ย

จงเฝ้ารอคอยองค์พระผู้เป็นเจ้าดั่งหญิงมีปัญญาเถิด

จะมีประโยชน์อะไรเล่า???

หากในมือถือตะเกียงแต่ปราศจากน้ำมัน

โอ้…จิตใจเอ๋ย

จงตื่นขึ้น เฝ้าระวังและรอคอยอย่างใจจดจ่อ

จงลุกขึ้น ตรวจตราน้ำมันให้เต็มเสมอ

ขอพระเจ้าโปรดทรงสอนส่วนที่ยังพร่องอยู่ เพื่อรับการเติมเต็ม

โอ้…จิตใจเอ๋ย

อย่าม้วนิ่งนอนใจกับสิ่งต่างๆ รอบตัว จนหย่อนยาน

ด้วยว่าวันเวลาและโมงนั้นใกล้เข้ามาแล้ว

โอ้…เนื้อหนังของข้าพเจ้าเอ๋ย

จงตื่นตัว เฝ้าระวัง เพื่อต้อนรับการเสด็จมาเยี่ยมเยียนของพระองค์

จงรู้เถิด ว่าพระองค์ทรงเคาะที่ประตู

ด้วยว่าเวลาเหล่านั้นรวดเร็ว เกินไปสำหรับผู้ที่หลับไหล

ข้าแต่พระเจ้า…

ขอโปรดปกป้องข้าพระองค์จากที่ซึ่งล่อลวงให้หลงผิด

ขอทรงนำให้คอยท่าพระองค์อย่างตื่นตัว

ขอเมตตาปกคลุมน้ำมันในตะเกียงชีวิต ไม่เหือดแห้ง

ขอทรงสำแดงว่า… ทรงอยู่ด้วย เพื่อมั่นใจ

ข้าพระองค์จะหมั่นตรวจตรา และเติมน้ำมันไม่ให้พร่อง

ขอทรงรับข้าพระองค์ดั่งหญิงมีปัญญา

ขอปกป้องไม่ให้พลาดดั่งหญิงโง่

ขอทรงเมตตา เตือนสติในวันที่หย่อนยาน

ขอทรงนำกลับมาให้ทันวันเวลา

ขออย่ายอมให้เนื้อหนังกัดกินจนพลาดพลั้ง

ขอทรงให้ข้าพระองค์อยู่ในเวลาของพระองค์

อธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน”

 

10338280_1555826294635851_7715995973584571595_n

101114

 

กจ.9:20-31 {การพิสูจน์ชีวิตของเซาโล}

 

9:20 และโดยทันทีทันใดท่านประกาศตามธรรมศาลา กล่าวเรื่องพระคริสต์ว่า พระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า
9:21 คนทั้งหลายที่ได้ยินก็พากันประหลาดใจแล้วว่า “คนนี้มิใช่หรือที่ได้ทำลายคนในกรุงเยรูซาเล็มที่ร้องออกพระนามนี้ และเขามาที่นี่หวังจะผูกมัดพวกนั้นส่งให้พวกปุโรหิตใหญ่”
9:22 แต่เซาโลยิ่งมีกำลังทวีขึ้น และทำให้พวกยิวในเมืองดามัสกัสนิ่งอึ้งอยู่ โดยพิสูจน์ให้เขาเห็นว่า พระเยซูทรงเป็นพระคริสต์
9:23 และหลังจากนั้นอีกหลายวันพวกยิวได้ปรึกษากันจะฆ่าเซาโลเสีย
9:24 แต่เรื่องการปองร้ายของเขารู้ถึงเซาโล เขาทั้งหลายได้เฝ้าประตูเมือง คอยฆ่าเซาโลทั้งกลางวันและกลางคืน
9:25 แต่เหล่าสาวกได้ให้เซาโลนั่งในเข่งใหญ่ แล้วหย่อนลงจากกำแพงเมืองในเวลากลางคืน
9:26 ครั้นเซาโลไปถึงกรุงเยรูซาเล็มแล้ว ท่านใคร่จะคบให้สนิทกับพวกสาวก แต่เขาทั้งหลายกลัว เพราะไม่เชื่อว่าเซาโลเป็นสาวก
9:27 แต่บารนาบัสได้พาท่านไปหาพวกอัครสาวก แล้วเล่าให้เขาฟังว่าเซาโลได้เห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าที่กลางทาง และพระองค์ตรัสแก่ท่าน ท่านจึงประกาศออกพระนามพระเยซูโดยใจกล้าหาญในเมืองดามัสกัส
9:28 แล้วเซาโลเข้านอกออกในอยู่กับพวกอัครสาวกในกรุงเยรูซาเล็ม
9:29 ประกาศออกพระนามของพระเยซูเจ้าด้วยใจกล้าหาญ ท่านพูดไล่เลียงกับพวกกรีก แต่พวกนั้นหาช่องที่จะฆ่าท่านเสีย
9:30 เมื่อพี่น้องรู้อย่างนั้นจึงพาท่านไปยังเมืองซีซารียา แล้วส่งไปยังเมืองทาร์ซัส
9:31 เหตุฉะนั้น คริสตจักรตลอดทั่วแคว้นยูเดีย กาลิลี และสะมาเรีย จึงมีความสงบสุขและเจริญขึ้น ดำเนินชีวิตด้วยใจยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า และได้รับความปลอบประโลมใจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ คริสตสมาชิกก็ยิ่งทวีมากขึ้น

กจ.9:20-31 {การพิสูจน์ชีวิตของเซาโล}

 

1.    การที่เซาโลเคยต่อต้านพระคริสต์อย่างที่สุด กลับใจใหม่มาเชื่อและเดินติดตามพระเจ้า ย่อมยังคงมีภาพเก่าๆ ของพฤติกรรมเซาโลติดตาผู้อื่นอยู่ เช่น การเข่นฆ่า การข่มเหง คริสเตียน ทำให้ไม่ได้รับการยอมรับจากผู้เชื่อคนอื่น แม้เซาโลจะมีประสบการณ์ที่เด่นชัดจากพระเยซูด้วยตนเองก็ตาม ถึงกระนั้นเซาโลไม่ได้ตีอกชกตัว โกรธผู้อื่น แต่เขากลับพิสูจน์ชีวิต พิสูจน์ผลแห่งการกลับใจใหม่ของเขา ด้วยการดำเนินชีวิตอย่างดี ประกาศพระนามพระคริสต์อย่างไม่หวั่นเกรงต่อสิ่งใดๆ วางคำครหาและการไม่ยอมรับลง แต่เดินหน้าติดตามพระเจ้าอย่างที่สุดในส่วนของตนเอง จนกระทั่งผู้เชื่อคนอื่นเห็นถึงการเปลี่ยนแปลง และเชื่อวางใจในตัวเซาโลว่าเขากลับใจใหม่แล้วจริงๆ … เป็นปกติที่คนเราจะไม่ได้รับการยอมรับในสิ่งหนึ่งสิ่งใด แต่สิ่งที่ควรกระทำอย่างแรก … คือ … การจดจ่อในการยืนหยัดเดินติดตามพระเจ้าของตนอย่างสุดใจ ซึ่งจะเป็นการพิสูจน์ตนเองจนผู้อื่นเห็นและสัมผัสได้ในที่สุด และเหตุนี้เองพระเจ้าจะเป็นผู้อยู่ฝ่ายเรา

 

2.    (ข้อ 22) เซาโลไม่ได้มัวแต่นั่งท้อใจที่ไม่ได้รับการยอมรับหรือการสนับสนุนเป็นอย่างดีในการเดินติดตามพระเจ้าของตนเอง แต่เขากลับมีกำลังใหม่ ซึ่งมาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ สะท้อนให้เห็นถึงขนาดความสัมพันธ์กับพระเจ้า ที่เขาแสวงหา… ท่ามกลางเสียงของผู้เชื่อเดิม , ท่ามกลางการรับผลเดิมๆ ที่เขาทำ , ท่ามกลางการพยายามเข้าใจวิถีชีวิตใหม่ในการเดินติดตามพระเจ้า ,… ย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเซาโลเลย ที่ละทิ้งตำแหน่ง เกียรติยศชื่อเสียงที่มีในอดีต หันกลับมาหาพระเจ้าและรับใช้อย่างจริงจัง แต่เพราะเขามีประสบการณ์ตรงที่ชัดเจนกับพระเยซู (กจ.9:3-9)  ทำให้เขาไม่ลดละและหันหลังกลับไป แม้ปราศจากที่พึ่งพา แต่เขากลับได้รับกำลังจากองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์

กจ.9:3-9
9:3 เมื่อเซาโลเดินทางไปใกล้จะถึงเมืองดามัสกัส ในทันใดนั้นมีแสงสว่างส่องมาจากฟ้าล้อมตัวเขาไว้รอบ
9:4 เซาโลจึงล้มลงถึงดินและได้ยินพระสุรเสียงตรัสแก่เขาว่า “เซาโล เซาโลเอ๋ย เจ้าข่มเหงเราทำไม”
9:5 เซาโลจึงทูลถามว่า “พระองค์เจ้าข้า พระองค์ทรงเป็นผู้ใด” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เราคือเยซู ที่เจ้าข่มเหง ซึ่งเจ้าถีบประตักก็ยากนัก”
9:6 เซาโลก็ตัวสั่นและรู้สึกประหลาดใจจึงถามว่า “พระองค์เจ้าข้า พระองค์ประสงค์จะให้ข้าพระองค์ทำอะไร” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสแก่เขาว่า “เจ้าจงลุกขึ้นเข้าไปในเมือง และจะมีคนบอกให้รู้ว่า เจ้าจะต้องทำประการใด”
9:7 คนทั้งหลายที่เดินทางไปด้วยกันก็ยืนนิ่งพูดไม่ออก ได้ยินพระสุรเสียงนั้นแต่ไม่เห็นใคร
9:8 ฝ่ายเซาโลได้ลุกขึ้นจากพื้นดิน เมื่อลืมตาแล้วก็มองอะไรไม่เห็น เขาจึงจูงมือท่านไปยังเมืองดามัสกัส
9:9 ตาท่านก็มืดมัวไปถึงสามวันและท่านมิได้กินหรือดื่มอะไรเลย

 

3.    (ข้อ 27-30) เมื่อเซาโลได้พิสูจน์ชีวิตด้วยการเดินติดตามพระเจ้าอย่างสุดใจในส่วนของตนเอง ทำให้ผู้เชื่อคนอื่นๆ ที่หวาดระแวงเซาโลจากภาพในอดีตของเขา ได้เห็นว่าเซาโลเปลี่ยนแปลงแล้วจริงๆ เขาเป็นคนของพระเจ้าแล้วจริงๆ การช่วยเหลือและสนับสนุนมาถึงอย่างมาก… แสดงให้เห็นว่าผู้เชื่อในสมัยนั้นยินดีจะช่วยเหลือ ผู้ที่กลับใจใหม่อย่างแท้จริง โดยไม่แบ่งพรรคแบ่งพวก ไม่ลังเลที่จะช่วยเหลือกันและกันในความเชื่อ เพื่อให้เกิดความเข้มแข็ง อีกทั้งเป็นการสนับสนุนซึ่งกันและกันในกรประกาศพระนามของพระคริสต์ โดยใครทำอะไรได้ก็ทำ ไม่มีเกี่ยงงอน (ข้อ 25)

 

4.    (ข้อ 31) พระราชกิจของพระเจ้าจะยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีก หากผู้เชื่อร่วมแรงร่วมใจกัน ในการทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ จะทำให้สวนกระแสโลก คือ กระแสการต่อต้าน … แต่ยิ่งมีการต่อต้านมากเท่าไร การฟื้นฟูอันเนื่องจากการทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ยิ่งมากเท่านั้น ทั้งนี้การเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของผู้เชื่อเป็นปัจจัยสำคัญ

 

Be-In-This-Moment

 

191014