Tag Archives: การทรงสร้างของพระเจ้า

ปฐก.1:1 – 26 การทรงสร้างของพระเจ้า

ปฐก.1:1 – 26 การทรงสร้างของพระเจ้า

1:1 ในเริ่มแรกนั้นพระเจ้าทรงเนรมิตสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก
1:2 และแผ่นดินโลกนั้นก็ปราศจากรูปร่างและว่างเปล่าอยู่ และความมืดอยู่เหนือผิวของน้ำ และพระวิญญาณของพระเจ้าเคลื่อนไหวอยู่เหนือผิวของน้ำนั้น
1:3 และพระเจ้าตรัสว่า “จงให้มีความสว่าง” และความสว่างก็เกิดขึ้น
1:4 และพระเจ้าทรงเห็นความสว่างนั้นว่า ความสว่างนั้นดี และพระเจ้าทรงแยกความสว่างนั้นออกจากความมืด
1:5 และพระเจ้าทรงเรียกความสว่างนั้นว่าวัน และพระองค์ทรงเรียกความมืดนั้นว่าคืน และมีเวลาเย็นและเวลาเช้าเป็นวันแรก
1:6 และพระเจ้าตรัสว่า “จงให้มีพื้นฟ้าในระหว่างน้ำ และจงให้พื้นฟ้านั้นแยกน้ำออกจากน้ำ”
1:7 และพระเจ้าทรงสร้างพื้นฟ้า และทรงแยกน้ำซึ่งอยู่ใต้พื้นฟ้าจากน้ำซึ่งอยู่เหนือพื้นฟ้า และก็เป็นดังนั้น
1:8 และพระเจ้าทรงเรียกพื้นฟ้าว่าฟ้าสวรรค์ และมีเวลาเย็นและเวลาเช้าเป็นวันที่สอง
1:9 และพระเจ้าตรัสว่า “จงให้น้ำที่อยู่ใต้ฟ้าสวรรค์รวบรวมเข้าอยู่แห่งเดียวกัน และจงให้พื้นดินแห้งปรากฏขึ้น” และก็เป็นดังนั้น
1:10 และพระเจ้าทรงเรียกพื้นดินแห้งว่าแผ่นดิน และที่น้ำรวบรวมเข้าอยู่แห่งเดียวกันว่าทะเล และพระเจ้าทรงเห็นว่าดี
1:11 และพระเจ้าตรัสว่า “จงให้แผ่นดินเกิดต้นหญ้า ต้นผักที่มีเมล็ด และต้นไม้ที่ออกผลที่มีเมล็ดในผลตามชนิดของมันบนแผ่นดิน” และก็เป็นดังนั้น
1:12 และแผ่นดินก็เกิดต้นหญ้า และต้นผักที่มีเมล็ดตามชนิดของมัน และต้นไม้ที่ออกผลที่มีเมล็ดในผลตามชนิดของมัน และพระเจ้าทรงเห็นว่าดี
1:13 และมีเวลาเย็นและเวลาเช้าเป็นวันที่สาม
1:14 และพระเจ้าตรัสว่า “จงให้มีดวงสว่างต่าง ๆ ในพื้นฟ้าแห่งฟ้าสวรรค์เพื่อแยกวันออกจากคืน และเพื่อใช้เป็นหมายสำคัญ และที่กำหนดฤดู และวันและปีต่าง ๆ
1:15 และจงให้เป็นดวงสว่างต่าง ๆ ในพื้นฟ้าแห่งฟ้าสวรรค์เพื่อส่องสว่างบนแผ่นดินโลก” และก็เป็นดังนั้น
1:16 และพระเจ้าได้ทรงสร้างดวงสว่างใหญ่สองดวง ให้ดวงสว่างที่ใหญ่กว่านั้นครองกลางวัน และให้ดวงสว่างที่เล็กกว่าครองกลางคืน พระองค์ทรงสร้างดวงดาวต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน
1:17 และพระเจ้าทรงตั้งดวงสว่างเหล่านี้ไว้ในพื้นฟ้าแห่งฟ้าสวรรค์เพื่อส่องสว่างบนแผ่นดินโลก
1:18 และเพื่อปกครองกลางวันและปกครองกลางคืน และเพื่อแยกความสว่างออกจากความมืด และพระเจ้าทรงเห็นว่าดี
1:19 และมีเวลาเย็นและเวลาเช้าเป็นวันที่สี่
1:20 และพระเจ้าตรัสว่า “จงให้น้ำอุดมบริบูรณ์ไปด้วยสัตว์ที่มีชีวิตแหวกว่ายไปมา และให้มีนกบินไปมาในพื้นฟ้าแห่งฟ้าสวรรค์เหนือแผ่นดินโลก”
1:21 และพระเจ้าได้ทรงสร้างปลาวาฬใหญ่ และบรรดาสัตว์ที่มีชีวิตแหวกว่ายไปมาตามชนิดของมัน ซึ่งเกิดขึ้นบริบูรณ์ในน้ำนั้น และบรรดาสัตว์ที่มีปีกตามชนิดของมัน และพระเจ้าทรงเห็นว่าดี
1:22 และพระเจ้าได้ทรงอวยพรสัตว์เหล่านั้นว่า “จงมีลูกดกและทวีมากขึ้น และจงให้น้ำในทะเลต่าง ๆ บริบูรณ์ไปด้วยสัตว์ และจงให้นกทวีมากขึ้นบนแผ่นดิน”
1:23 และมีเวลาเย็นและเวลาเช้าเป็นวันที่ห้า
1:24 และพระเจ้าตรัสว่า “จงให้แผ่นดินโลกเกิดสัตว์ที่มีชีวิตตามชนิดของมัน สัตว์ใช้งาน และสัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์ป่าแห่งแผ่นดินโลกตามชนิดของมัน” และก็เป็นดังนั้น
1:25 และพระเจ้าได้ทรงสร้างสัตว์ป่าแห่งแผ่นดินโลกตามชนิดของมัน และสัตว์ใช้งานตามชนิดของมัน และบรรดาสัตว์ที่เลื้อยคลานบนแผ่นดินโลกตามชนิดของมัน และพระเจ้าทรงเห็นว่าดี
1:26 และพระเจ้าตรัสว่า “จงให้พวกเราสร้างมนุษย์ในแบบพระฉายของพวกเรา เหมือนตามอย่างพวกเรา และให้พวกเขาครอบครองเหนือฝูงปลาในทะเล และเหนือฝูงนกในอากาศ และเหนือสัตว์ใช้งาน และให้เหนือทั่วทั้งแผ่นดินโลก และเหนือบรรดาสัตว์เลื้อยคลานที่คลานไปมาบนแผ่นดินโลก”

(ข้อ 1) พระเจ้าเป็นผู้ทรงสร้างจักรวาลนี้ และทรงริเริ่มสร้างสรรค์จากความว่างเปล่า จากสิ่งที่ไม่มีให้เกิดขึ้น
(ข้อ 2) พระเจ้าทรงอยู่เหนือการทรงสร้างของพระองค์
(ข้อ 3) พระเจ้าทรงสร้างสิ่งต่างๆ ด้วยคำตรัส แค่เพียงทรงตรัสทุกสิ่งก็เกิดขึ้น สิ่งที่ไม่มีก็กลับกลายเป็นมีได้
(ข้อ 4) การทรงสร้างของพระเจ้านั้นดี และไร้ที่ติ
(ข้อ 5) พระเจ้าทรงมีเหตุผลต่อการทรงสร้างของพระองค์เสมอ ทรงตั้งความสว่างไว้ เพื่อกลางวัน และความมืดไว้ เพื่อเวลากลางคืน ทรงแบ่งแยกช่วงเวลาออกจากกันเป็นครั้งแรก ด้วยเวลา เช้า และ เย็น
(ข้อ 6-10) การทรงสร้างของพระเจ้าเป็นแบบครบบริบูรณ์ทุกมิติ รวมถึงการรองรับในอนาคตด้วย (เนื่องจากตอนนั้นยังไม่มีฝน มีแค่ภาคพื้นน้ำมหาสมุทร แต่พระเจ้าทรงสร้างเตรียมไว้แล้ว เพราะอนาคตจะมีฝนตก)
(ข้อ 11-13) พระเจ้าทรงจัดเตรียมระบบนิเวศน์วิทยาไว้ เพื่อรองรับการทรงสร้างต่อๆ มาของพระองค์ อันได้แก่ มนุษย์ สัตว์ และ พืช
(ข้อ 14-19) พระเจ้าทรงสร้างรายละเอียดอื่นๆ บนแผ่นดินนี้ ทุกมิติ ทั้งใต้พิภพ พื้นดิน ฟ้าเบื้องบน ได้แก่ ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ อากาศ ดิน น้ำ ลม ไฟ พืชพันธุ์ทั้งสิ้น
(ข้อ 20-25) พระเจ้าเริ่มทรงสร้างสิ่งมีชีวิตตามลำดับ ได้แก่ สัตว์น้ำ สัตว์ปีก และ สัตว์บนดิน
(ข้อ 26) พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ เป็นลำดับสุดท้าย เพื่อให้ครอบครองทุกสิ่งที่ทรงสร้างมาตั้งแต่แรก

ข้อคิด

1. พระเจ้าทรงสร้างสิ่งสารพัดจากสิ่งที่ไม่มีให้กลับกลายเป็นมีได้ และความยิ่งใหญ่ของพระเจ้านั้นมากถึงขนาดแค่ทรงตรัสโลกทั้งใบ จักรวาลทั้งระบบก็เกิดขึ้นได้ และทรงเป็นพระผู้สร้างที่สมบูรณ์ไร้ที่ติ มีลำดับขั้นตอน และ กระบวนการสร้างอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ด้วยการทรงสร้างโลกทั้งใบนี้อย่างดีภายในเวลาเพียงแค่ 6 วัน = พระเจ้าทรงสามารถทำการยิ่งใหญ่ได้อย่างไม่จำกัด เพราะทรงฤทธิ์เดชในการทรงสร้าง และเราทั้งหลายก็เป็นหนึ่งในการทรงสร้างที่ยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ไม่มีสิ่งใดที่พระเจ้าทรงทำไม่ได้

2. ความมีระบบระเบียบของพระเจ้าสำแดงผ่านการทรงสร้าง ที่เป็นขั้นเป็นตอน ทรงเรียงลำดับก่อนหลัง และ มีการตรวจวัดอย่างละเอียดว่า “ดียิ่งนัก” ในทุกสิ่ง นั่นแสดงว่า พระเจ้าไม่ได้ทรงสร้างแบบส่งๆไป แต่ทรงสร้างอย่างบรรจง อย่างงดงาม ไร้ที่ติ ทรงตรวจสอบด้วยพระองค์เองในทุกรายละเอียด = เมื่อพระเจ้าทรงสร้าง หรือ กระทำสิ่งใดๆ ในชีวิตของเรา ย่อมผ่านกระบวนการ “ดียิ่งนักแล้ว”

3. จะเห็นได้ว่า พระเจ้าทรงพระปัญญาสูงสุด มองทุกอย่างทะลุปรุโปร่ง ทรงวางรากฐานแต่ละสิ่ง แม้แต่สิ่งเล็กๆ จนเป็นระบบ และ ออกมาในรูปแบบของระบบนิเวศวิทยา เอการดำรงชีพของมนุษย์ สัตว์ พืช ด้วยสภาพแวดล้อม ทุกรายละเอียด ทุกจุดอย่างครบถ้วน ทุกองค์ประกอบ การทรงสร้างของพระเจ้าไม่ได้บกพร่องเลยแม้แต่น้อย และไม่ได้ด้อยไปเลย สามารถคงทนมาจนถึงปัจจุบัน

4. เราจะค่อยๆ เห็นการเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นทีละวันๆ ที่ทรงสร้าง จากความว่างเปล่า = เราจะค่อยๆ เห็นชีวิต สิ่งต่างๆ รอบตัวของเราชัดเจนมากขึ้น ผ่านกระบวนการสร้างของพระเจ้าในชีวิตเรา ว่า ต้องเป็นขั้นตอน เป็นกระบวนการ จนกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ หรือ เรียกว่า “ความไพบูลย์ของพระเจ้า”

5. จะเห็นได้ว่า การทรงสร้างของพระเจ้าแต่ละลำดับขั้น เพื่อจุดประสงค์สุดท้าย คือ ให้มนุษย์ครอบครอง = พระเจ้าทรงจัดเตรียมทุกสิ่งให้แก่มนุษย์เป็นอย่างดี ให้ระบบนิเวศน์ดูแลกันเองได้ หมายถึง พืชพันธุ์จะเจริญงอกงาม เกิดผลออกมาด้วยระบบ น้ำ ดิน ลม และอากาศ ส่วนสัตว์จะได้อาศัยระบบนิเวศน์แรกในการดำรงชีพ เป็นอีกวงโคจรหนึ่ง หรือ อีกระบบนิเวศน์หนึ่งที่ซ้อนขึ้นมา ส่วนมนุษย์ก็จะใช้ระบบนิเวศน์ทั้ง 2 นั้นด้วยการครอบครอง = มนุษย์ไม่ได้เป็นผู้ทำให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดดอกออกผล หรือ ขยายพันธุ์ แต่เป็นเพราะพระเจ้าทรงทำให้ และ ตั้งให้สิ่งเหล่านั้นเป็นระบบนิเวศน์ที่ออกผล ขยายพันธุ์ด้วยตัวของมันเอง (เปรียบเสมือนการตั้งระบบ automatic ไว้ในโลกนี้อยู่แล้ว)

6. พระคำ ปฐมกาล บทที่ 1 อธิบายให้เราเข้าใจถึงที่มาความเป็นไปของชีวิตเรา อีกทั้งน้ำพระทัยพระเจ้า ผ่านการทรงสร้างที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งเป็นสิ่งแรกดั้งเดิมของหัวใจพระเจ้าสำหรับแผ่นดินโลกนี้

7. พระคัมภีร์เริ่มต้นด้วยการทรงสร้างของพระเจ้า และ บรรจบด้วยแผ่นดินสวรรค์ นั่นหมายความว่า พระเจ้าทรงรู้อนาคตทุกอย่าง แต่ดวงพระทัยของพระเจ้ายังคงตั้งมั่นคงที่จะสำแดงให้แก่มนุษยชาติ และพระปัญญาของพระเจ้าได้มีทางออกให้แก่เราทั้งหลาย ด้วยการพิพากษาที่ทรงธรรม ด้วยการสร้างแผ่นดินสวรรค์นิรันดรไว้เรียบร้อยแล้ว

 

world-549425_1280

2017-04-21